ข้อดีของอาหารทางการแพทย์

อาหารทางการแพทย์ หลายคนที่ต้องการสารอาหารเพิ่มเติม เลือกใช้อาหารทางการแพทย์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางชนิดมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ต้องการสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาหารทางการแพทย์มีหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นสูตรทั่วไปหรือสูตรเฉพาะโรค ที่ถูกพัฒนาเพื่อการบริโภคทางปาก หรือการให้ผ่านทางสายให้อาหาร แต่การใช้อาหารทางการแพทย์ควรอยู่ภายใต้คำการดูแลของแพทย์หรือนักโภชนาการ ซึ่งจะมีสัดส่วนของสารอาหารที่เหมาะสม และมีวิตามินแร่ธาตุครบถ้วน สามารถใช้แทนอาหารทั่วไปสำหรับผู้ที่ไม่สามารถบริโภคอาหารทางปากได้ ที่ต้องใส่สายยางให้อาหาร สำหรับข้อดีของอาหารทางการแพทย์ ต้องถือว่ามีประโยชน์มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อเป็นการทดแทนสารอาหารที่ร่างกายขาดไป ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อร่างกาย สามารถกำหนดปริมาณได้อย่างเหมาะสม และยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริม สำหรับผู้ที่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือสามารถใช้เป็นอาหารทางสายยาง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดสารอาหารหรือลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆได้

 

นอกจากอาหารทางการแพทย์จะสามารถใช้เป็นอาหารหลักแทนอาหารแต่ละมื้อได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในระบบย่อยและดูดซึมอาหารได้ สำหรับผู้รับประทานอาหารไม่ได้ตามปกติ เช่น ผู้ป่วยไตวายต้องการอาหารที่จำกัดปริมาณโพแทสเซียม ผู้ที่เป็นเบาหวานต้องการอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือผู้ที่สูญเสียกล้ามเนื้อต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร ลดอาการแทรกซ้อน และอัตราการเสียชีวิต เพราะถ้าร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นจะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงไปด้วย นอกจากนี้อาหารทางการแพทย์ยังมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถหาซื้อรับประทานได้ง่าย มีวิธีการรับประทานที่ง่าย โดยอาหารทางการแพทย์มีให้เลือกตามชอบทั้งแบบผงและแบบน้ำ ซึ่งปัจจุบันวิธีการใช้ก็ค่อนข้างสะดวก ถ้าเป็นแบบผงจะมีวิธีการชงที่ชัดเจน ละเอียด วิธีการชงคล้ายกับการชงนมให้เด็กทารก ขนาดบรรจุส่วนใหญ่คือ 400 กรัม และ 1,000 กรัม ถ้าเป็นชนิดน้ำจะบรรจุอยู่ในกระป๋องขนาด 250-350 มิลลิลิตร เก็บได้โดยไม่ต้องแช่เย็น เปิดรับประทานได้ทันที แต่ก่อนใช้อาหารทางการแพทย์ควรได้รับคำแนะนำวิธีการใช้จากเแพทย์หรือนักโภชนาการทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของการเกิดอันตรายจากการบริโภคอาหารทางการแพทย์

 

อาหารทางการแพทย์จะมีความต่างจากการใช้อาหารปั่นผสมคือ มีวิธีการเตรียมที่ไม่ยุ่งยาก สามารถนำไปให้ผู้ป่วยที่ต้องรับอาหารทางสายยางได้ ในกรณีที่จะนำไปให้ผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ดูแลจะไม่ต้องเตรียมอาหารให้ยุ่งยาก ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าหากจะต้องให้อาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วย และต้องใช้อาหารปั่นผสม ผู้ดูแลจะต้องมีการเตรียมอาหาร โดยจะปรุงอาหารขึ้นมา จะต้องหาวัตถุดิบที่สดใหม่ เพื่อนำมาประกอบอาหารปั่นผสม แล้วนำไปให้ผู้ป่วย แต่ถ้าหากใช้อาหารทางการแพทย์ผู้ดูแลสามารถชงอาหารทางการแพทย์และนำไปให้ผู้ป่วยได้ทันที แต่ถึงอย่างไร แม้ว่าอาหารปั่นผสมจะต้องมีขั้นตอนการเตรียมที่ยุ่งยากแต่ก็มีข้อดีเช่นเดียวกัน ซึ่งอาหารทั้งสองชนิดก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าการใช้อาหารประเภทใดจะสะดวกกว่า ทั้งนี้ทางอาหารทางสายยาง SNFood เรามีบริการอาหารทางสายยาง ทำให้ผู้ดูแลไม่ต้องปรุงอาหารขึ้นมาเอง เอเป้นการประหยัดเวลา ทางอาหารปั่นผสม เรามีบริการอาหารทางสายยาง ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย แต่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์ โดยมีนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมการผลิตอาหาร เพื่อให้ส่งต่ออาหารไปยังผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพมากที่สุด และวัตถุดิบทุกอย่างที่เรานำมาทำอาหารปั่นผสม มีการคัดสรรอย่างดี เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและคงคุณค่าทางสารอาหารให้ได้มากที่สุด ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็ว

 

 

อาหารสายยาง, อาหารสุขภาพ, อาหารผู้ป่วย, อาหารเหลว