วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในการรับประทานอาหารเช้า เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
อยากที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า การรับประทานอาหารเช้าเป็นประจำต่อเนื่องนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว และเสริมสร้างคุณภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ ไม่ใช่ว่ากินอะไรก็ได้ หรือกินอย่างไรก็ได้ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลดีแล้ว อาจจะได้ผลเสียที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
ในวันนี้ทางด้านของ SN Foods บริษัทที่ให้บริการงานสนับสนุนทางด้านอาหารในกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำภายใต้มาตรฐานระดับโลก ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของท่านผู้อ่านอย่าสูง จึงได้อยากจะเตือนให้ทุกท่านได้ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการรับประทานอาหารเช้าที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้สุขภาพของทุกท่านยืนยาวและแข็งแรง ไม่เกิดโรคภัยไข้เจ็บจากการรับประทาน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ เลือกอย่างไรถึงจะดี ?
ต้องขอบอกก่อนเลยว่ามีท่านผู้อ่านบางท่านบอกว่ารับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ แต่ทำไมเหมือนสุขภาพร่างกาย และคุณภาพในการทำงานถึงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เราจึงขอแนะนำว่าการเลือกของประเภทอาหารที่รับประทานถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในความสำคัญมากๆสำหรับอาหารเช้า โดยให้เลือกรับประทาน คาร์โบไฮเดรตซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มเกี่ยวกับพลังงาน ที่ร่างกายต้องการเพราะสามารถที่จะเผาผลาญเป็นพลังงานได้ในทันทีเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ อีกส่วนก็คือโปรตีน ในส่วนของไฟเบอร์นั้นก็สำคัญเพราะจะทำให้ท่านผู้อ่านอิ่มนานขึ้น โดยที่ไม่ต้องรับพลังงานส่วนเกินเข้าไป แถมยังช่วยในเรื่องของการลดอาการท้องผูกและทำให้ระบบย่อยอาหารนั้นทำงานเป็นปกติ
หากว่าท่านพอจะมีเวลาอาหารเช้านั้นควรที่จะมีการผสมผสานอาหารหลายๆประเภท เพื่อให้ระบบเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากใครที่ยังประประทานอาหารเช้าไม่ถูกหลักควรมองหาอาหาร 3 กลุ่มใหญ่ๆดังที่กล่าวไปนั้น
ตัวอย่างอาหารทั้ง 3 กลุ่มมีดังต่อไปนี้
– คาร์โบไฮเดรต ได้จาก ซีเรียลธัญพืช ข้าวกล้อง ขนมปังธัญพืช
– ไฟเบอร์ จากผักผลไม้ ให้เน้นที่รับประทานแบบสด เพราะแบบสำเร็จรูปเป็นกระป๋องส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารปรุงแต่ง
– โปรตีน จากเนื้อสัตว์แต่ควรเลือกที่ไม่ติดมัน รวมถึงไข่ และถั่ว
คำแนะนำในการรับประทานอาหารเช้า
ต้องขอบอกเลยว่าพฤติกรรมในการรับประทานอาหารเช้านั้นถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยส่งเสริมสุขภาพของท่านให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยมีหลักที่ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
– กินให้สมดุล
อย่างที่ทุกท่านทราบว่าอะไรที่มากไปก็ไม่ดี อะไรที่น้อยไปก็ไม่ดี ความเป็นกลางย่อมส่งเสริมให้ดีที่สุด การเลือกรับประทานอาหารก็เช่นกัน ควรเลือกความสมดุลของพลังงานให้เหมาะสมในแต่ละวัน เลือกสารอาหาร และแคลอรี่ ตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันอย่างเหมาะสม
ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขได้ระบุสัดส่วนการกระจายความสมดุลของบุคคลธรรมดาไว้ว่า มือเช้าควรอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณอาหารที่รับประทานทั้งหมดในแต่ละวัน โดยให้มื้อกลางวันและเย็นอยู่ที่ปริมาณร้อยละ 30 ส่วนอีกประมาณร้อยละ 10 ให้เป็นส่วนของอาหารว่าง
– รับประทานโดยที่ไม่เร่งรีบ
ในมื้อเช้าแม้ว่าจะเป็นเวลาที่หลายๆท่านเร่งรีบ เพราะเหตุนี้เองเราควรเผื่อเวลารีบตื่นนอนเพื่อรับประทานอาหารมื้อเช้าอย่างเต็มที่ไม่ต้องไปรีบร้อน รวมถึงไม่ทำกิจกรรมอื่นควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร เพื่อให้เราสามารถสังเกตอาการของร่างกายว่ากำลังหิวหรืออิ่ม เพื่อไม่ให้รับประทานอาหารที่มากเกินความจำเป็นนั่นเอง
– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก่อนเสมอ
จากการศึกษาพฤติกรรมคนส่วนใหญ่ในเวลาหิวมีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารประเภทน้ำตาลและแป้งก่อนเสมอ ซึ่งทางที่ดีลองปรับเปลี่ยนประเภทอาหารเริ่มต้นเป็น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือผลิตภัณฑ์จำพวกนม เนื่องจากอาหารประเภทหลุ่มเหล่านี้ จะอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายของเรามากกว่าแป้งและน้ำตาล
– เปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกรับประทาน
อาหารเช้าที่ดีและมีประโยชน์มากๆสำหรับร่ายกายของคนเรานั้นควรมีสัดส่วนของผักและธัญพืชอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร รวมถึงปรับอาหารบางชนิดเช่น นมก็ควรเลือกที่ไขมันต่ำ 0% แทนนมปกติ เพราะจะได้รับไขมันไม่มากเกินไปแต่ยังคงได้สารอาหารครบ เปลี่ยนจากข้าวขาวธรรมดาเป็นข้าวกล้อง รวมถึงดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้มากๆ แทนเครื่องดื่มที่มีการปรุงแต่งต่างๆ
ถ้าทุกท่านทำได้ตามที่กล่าวมาเป็นประจำบอกเลยว่าสุขภาพร่างกายของทุกท่านจะแข็งแรง และมีอายุยืนยาวอย่างแน่นอน