ประโยชน์ของ โยเกิร์ต ที่หลายคนไม่รู้
โยเกิร์ต เป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์จากนม โดยผ่านขั้นตอนการหมักด้วยแบคทีเรียชิดหนึ่งที่ชื่อว่า โปรไบโอติก ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดี โดยจะใช้แบคทีเรียชนิดดีนี้หลายชิดขึ้นไปในการหมัก และต้องขอบอกเลยว่าแบคทีเรียชนิดดีเหล่านี้นั้น มีประโยชน์กับร่างกายในเรื่องของการช่วยฟื้นฟูและปรับสมดุลแบคทีเรียในระบบย่อยอาหาร การรับประทานโยเกิร์ตจึงมีข้อดีชัดๆเลยก็คือ บรรเทาอาการติดเชื้อราในช่องคลอด และลดอาการท้องเสียให้ดีขึ้น ซึ่งในวันนี้ทางด้าน SN Foods บริษัทที่ให้บริการงานสนับสนุนทางด้านอาหารในกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำภายใต้มาตรฐานระดับโลก จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับโยเกิร์ตให้มากขึ้น ซึ่งมีหลายคนยังมองว่าโยเกิร์ตนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพเนื่องจากเห็นว่าโยเกิร์ดเป็นนมบูด เราจะมาไขข้อสงสัยในคุณประโยชน์ต่างๆของโยเกิร์ตกันดังต่อไปนี้
ประโยชน์ของโยเกิร์ต ?
ต้องบอกเลยว่า โยเกิร์ตนั้นถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆมากมาย เพราะเชื่อว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพราะอาหารและระบบทางเดินปัสสาวะได้ แถมยังเชื่อว่าสามารถนำมารับประทานเพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงได้อีกด้วย แต่จะจริงหรือไม่อย่างไรนั้น ท่านผู้อ่านลองพิจารณาจากงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโยเกิร์ตที่เราได้รวมรวมไว้ให้ดังนี้
– อาการท้องเสีย
ได้มีการทดลองในเด็กอายุช่วงประมาณ 6-24 เดือน ที่มีอาการท้องเสียไม่น้อยกว่า 4 วัน จำนวนทั้งสิ้น 80 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ทำการรักษาปกติตามขั้นตอนของโรงพยาบาล และอีกกลุ่มให้รับประทานโยเกิร์ตนมวัวพาสเจอไรซ์เพื่อเติมนอกเหนือจากการรักษาตามธรรมดา ผลปรากฎว่า โยเกิร์ตมีส่วนในการช่วยลดความถี่ของการถ่ายท้องและทำให้น้ำหนักของทารกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย จึงทำให้ผู้วิจัยให้ความเห็นว่าโยเกิร์ตอาจเป็นทางเลือกในการบรรเทาอาการท้องเสียต่อเนื่องได้ดีในระดับเบื้องต้น
– ป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด
ในช่วงที่ผ่านมาได้มีบทความงานทางด้านวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่กล่าวถึงโยเกิร์ตว่าอาจจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลต่อการป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด เนื่องจากว่าจุลินทรีย์มีชีวิตในโยเกิร์ต มีประโยชน์มากในการช่วยป้องกันหรือรักษาช่องคลอดอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อราได้ดีกว่าการไม่รับประทานอาหารที่เป็นโปรไบโอติกเลย
– ภาวะแพ้แลคโตส
หลายๆท่านมีปัญหาเรื่องไม่สามารถย่อยเอนไซม์แลคโตสในนมได้ โดยทางแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้หันมาบริโภคโยเกิร์ตแทนนม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาท้องเสีย และท้องอืดได้ ซึ่งจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็ได้มองที่จุดนี้ด้วยเหตุผลว่า ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ช่วยในเรื่องของการย่อย ทำให้ร่างกายเกิดความสามารถย่อยแลคโตสในโยเกิร์ตได้ดีกว่าแลคโตสที่พบในในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้มาจากนม
– โรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ
จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าการผสมโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์แลตโตบาซิลลัส หรือทางด้านของ ไบฟิโดแบคทีเรียม เข้ากับยาที่ใช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหารติดเชื้อในจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามแผนการรักษาได้ดี ส่งผลให้สามารถกำจัดแบคทีเรียเอชไพโลไร ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันได้ว่าการรับประทานโยเกิร์ตเพียงอย่างเดียวสามารถช่วยได้
– ลดระดับคอเลสเตอรอล
ได้มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเผยว่า โยเกิร์ตเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง โดยได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 40 คน ซึ่งทั้งหมดมีไขมันชนิดที่ไม่ดีสูง โดยให้รับประทานโยเกิร์ตโปรไบโอติกที่ประกอบด้วยแลคโตบาซิลลัสแอซิโดฟิลัสและไบฟิโดแบคทีเรียมแลคติส วันละประมาณ 300 กรัม เป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยเทียกับการรับประทานโยเกิร์ตแบบธรรมดาทั่วไปด้วย ผลออกมาปรากฎว่า ผู้ป่วยที่รับประทานโยเกิร์ตโปรไบโอติกจะมีส่วนระหว่างไขมันไม่ดีต่อไขมันดีมากขึ้น ซึ่งมีระดับไขมันดีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงของไขมันไตรกลีเซอไรด์และไขมันคอเลสเตอรอลโดยรวม
– ลดกลิ่นปาก รักษาสุขภาพเหงือกและฟัน
ได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่า การรับประทานโยเกิร์ตวันละประมาณ 90 มิลลิลิตร โดยรับประทานวันละ 2 ครั้งแบ่งตามสัดส่วน เป็นเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ จะช่วยลดเรื่องกลิ่นปากที่เกิดจากการสะสมของสารต่างๆในช่องปากได้ ซึ่งคาดว่าเกิดจากแบคทีเรียที่มีชีวิตในโยเกิร์ต มีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นปากจากการสะสมของแบคทีเรียในปากได้นั่นเอง