อาหารที่ผู้เป็นไมเกรนควรหลีกเลี่ยง

อาการปวดไมเกรน เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง มีลักษณะเฉพาะตัวที่สำคัญคืออาการปวดศีรษะมักจะปวดข้างเดียวและแต่ละครั้งพี่ปวดมักจะยากข้างหรือตำแหน่งได้ โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคไมเกรนเป็นผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ และจะพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มักจะเป็นผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง ในปัจจุบันสาเหตุของไมเกรนยังไม่ทราบที่แน่ชัด อาจเกิดจากความผิดปกติที่ระดับสารเคมีในสมองการสื่อกระแสในสมองหรือการทำงานที่ผิดปกติของหลอดเลือดสมองก็ได้ ซึ่งอาการไมเกรนนั้น สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่จะเกิดอาการหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายนอกและภายในร่างกายที่เป็นตัวกระตุ้น สำหรับลักษณะอาการปวดไมเกรน มักจะมีอาการปวดหัวเป็นระยะๆ ส่วนมากจะปวดหัวระดับปานกลางและจะค่อยๆปวดขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งปวดรุนแรงเต็มที่และค่อยๆบรรเทาอาการปวดลงจนหาย ในขณะที่มีอาการปวดมักจะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน บางครั้งอาจจะทำให้สายตาพล่ามัว มองเห็นแสงกระพริบๆอาการปวดนั้นสามารถปวดขึ้นได้ โดยไม่เลือกเวลา บางรายอาจปวดกลางดึกหรือปวดตั้งแต่ตื่นนอน ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรน สามารถป้องกันได้ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นรับประทานผัก ผลไม้หรืออาหารที่มีแมกนีเซียมสูง โดยจะทำให้บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนลงได้ แต่ในทางกลับกันการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรน ก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนที่รุนแรงขึ้นได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ทาง SN Food อาหารเพื่อสุขภาพเราจะมาพูดถึงอาหารที่ผู้ป่วยโรคไมเกรน ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากรับประทานเข้าไปแล้วจะส่งผลให้เกิดอาการปวดไมเกรนกำเริบขึ้นมาได้นั่นเอง

 

สำหรับอาหารที่ผู้ป่วยโรคไมเกรนควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง ที่เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้แอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยโรคไมเกรนควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป เพราะคาเฟอีนจะทำปฏิกิริยากับส่วนรับความรู้สึกของสมอง ที่เชื่อมโยงกับไมเกรนนั่นเอง แต่ในทางกลับกัน หากดื่มจิบช้าๆ เพียงเล็กน้อย สามารถลดอาการปวดหัวเฉพาะช่วงเวลานั้นได้เช่นกัน ต่อมาคืออาหารประเภทเนื้อที่ผ่านการแปรรูป เพราะนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งแล้ว อาหารดังกล่าวยังเป็นตัวกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนอย่างดี เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบของโซเดียมไนเตรทสูง ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมองจนก่อให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นได้นั่นเอง รวมไปถึง ผงชูรส ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะทำให้เป็นโรคเบาหวานแล้ว ยังทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนอีกด้วย ต่อมาคือ น้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่มักจะพบได้ในขนมหรือเครื่องดื่มบางชนิด เช่น น้ำอัดลดประเภทน้ำตาล น้ำตาลเทียมต่างๆผู้ป่วยไมเกรน จึงไม่ควรดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพราะเป็นสารที่กระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ ผลไม้รสเปรี้ยว จะยิ่งกระตุ้นให้มีอาการปวดหัวมากยิ่งขึ้น ถึงแม้อาหารเหล่านี้จะไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคไมเกรน แต่คนทั่วไปก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมาได้

 

เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน เราจึงควรที่จะหลีกเลี่ยง และวิธีดีที่สุดที่จะพิจารณาว่าอาหารมีผลต่ออาการไมเกรนของคุณหรือไม่ คือ ผู้ป่วยไมเกรนควรทำการบันทึกอาหารที่กิน เมื่อมีอาการปวดไมเกรนกำเริบ นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ แล้ว แต่ยังคงเกิดอาการไมเกรนอยู่ สามารถใช้การรักษาด้วยยาเพื่อการป้องกันไมเกรนได้ โดยการใช้ยาต้องได้รับใบสั่งยาและคำแนะนำจากแพทย์ หากผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงและเป็นบ่อยๆ สำหรับแนวทางการดูแลรักษาสุขภาพของผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรน ควรสังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และตรงตามเวลาทุกวัน หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่หักโหมจนเกินไป ถ้าหากผู้ป่วยมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ก็ควรที่จะงดสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองตีบและอาจจะส่งผลให้เกิดอาการที่รุนแรงเพิ่มขึ้นได้ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น สำหรับในผู้ที่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะรุนแรงมากขึ้น หรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป ควรปรึกษาแพทย์ทันที อย่างไรก็ตาม ทาง SN Food อาหารเพื่อสุขภาพ เราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง และเราควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้น จะส่งผลให้ร่างกายของเราห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆได้ และควรหมั่นออกกำลังอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่ร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ทำให้เราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้นั่นเอง

อาหารสายยาง, อาหารสุขภาพ, อาหารผู้ป่วย, อาหารเหลว