ไอโอดีน สำคัญกว่าที่คิด
ถ้าขาดสารไอโอดีนจะทำให้เกิดโรคหลายโรค เช่น อาการคอพอก ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ โรคเอ๋อ ซึ่งทำให้ระดับสติปัญญาพัฒนาด้อยกว่าปกติ และมีการพัฒนาทางร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์ โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จะส่งผลให้ทารกมีการพัฒนาทางสมองช้ากว่าปกติ
ด้วยความห่วงใยจาก SN Food อาหารเพื่อสุขภาพ อยากให้ท่านผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของการขาดสารไอโอดีน บทความนี้จะช่วยให้ความรู้ ความเข้าใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน หน้าที่ของไอโอดีนช่วยในการทำงานและการเจริญเติบโตของต่อมไทรอยด์และเป็นส่วนหนึ่งของฮอร์โมนไทรอกซิน(Thyroxine) ซึ่งต่อมไทรอยด์ผลิตขึ้นโดยมีหน้าที่ก็คือควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมภายในร่างกายต่อมไทรอยด์เป็นส่วนหนึ่งในร่างกาย ที่มีความสำคัญต่อสภาพจิตใจ ผม ผิวหนัง เล็บ และฟัน การเปลี่ยนแคโรทีน ให้เป็นวิตามินเอ การสังเคราะห์โปรตีนโดย ไรโบโซมรวมทั้งการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้เล็ก ซึ่งหากฮอร์โมนไทรอกซินถูกผลิตออกมา ตามปกติการทำงานของสิ่งต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สาเหตุที่ร่างกายของเราขาดไอโอดีน มาจากสาเหตุดังต่อไปนี้คือ
- บริโภคอาหารที่มีไอโอดีนน้อยมากไม่เพียงพอแก่ความต้องการเช่นผู้ที่อยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่ไม่สามารถหาอาหารทะเลบริโภคได้
2.ร่างกายที่ต้องการไอโอดีนเพิ่มสูงขึ้นคือ สำหรับคนหนุ่มสาว ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้หญิงที่ต้องการให้นมแก่ทารก หรือผู้ที่มีอาการอักเสบภายในร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ต่อมไทรอยด์ต้องทำงานเพิ่มขึ้นร่างกายจึงต้องการไอโอดีนมากขึ้นด้วย
- ไอโอดีนหย่อนสมรรถภาพลง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุบางอย่างเช่นการบริโภคอาหารแคลเซียมสูงแต่มีไอโอดีนต่ำ ร่างกายขาดวิตามินเอและได้รับไอโอดีนน้อย หรือมีสารบางอย่างในอาหารออกฤทธิ์กดต่อมไทรอยด์ทำให้ต้องการไอโอดีนเพิ่มมากขึ้น จนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคคอพอก
- การได้รับสารที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์เช่นยาพวกไทโอชัยยาไนด์ (Thiocyanide) อะมิโนไธอะโซล(Aminothiasole) ซึ่งมีผลให้กต่อมไทรอยด์ ไม่สามารถใช้ไอโอดีนได้ตามปกติจึงทำให้ต่อมมีขนาดใหญ่
- ในพืชที่เรารับประทานจะมีสารบางอย่างที่ทำให้เกิดคอพอกได้ (Goitrogenic Compounds ) ซึ่งโดยปกติแล้วสารที่มีอยู่ในพืชนี้จะไม่เป็นพิษแต่อย่างใด แต่ในพืช จะมีน้ำย่อยชนิดหนึ่งคือ(Thioglycosides) ซึ่งจะไปมีผลต่อสารนี้ให้เปลี่ยนเป็นสารที่มีฤทธิ์ขัดขวางการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน จึงทำให้เซลล์ที่ ต่อมไทรอยด์เกิดการแบ่งตัวเพิ่มมากขึ้นซึ่ง
โดยพืชที่มีสารทำให้เกิดคอพอกก็ จะมีอยู่ในหัวผักกาด พืช แพร์ สตรอว์เบอร์รี่ แครอท และพืชที่อาจจะมีสารนี้อยู่ได้แก่ องุ่น คื่นฉ่าย พริกสด ส้มเขียวหวาน ถั่วลิสง ถั่วลันเตาถั่วฝักยาว แต่งไทย กะหล่ำปลี ผักกาดหอม หอยนางรม นมสด ตับ วิธีที่จะช่วยป้องกันออกฤทธิ์ของสารนี้ได้ก็คือการนำพืชที่บริโภคไปต้มเสียก่อนนั่งเอง
ส่วนอาหารที่ไม่พบสาร เหล่านี้ได้แก่เนื้อโค เนื้อแข็ง ไอศครีม กุ้ง เห็ดสับปะรด ดอกกะหล่ำ แตงกวา ข้าวข้าวโพด ถั่วดำ ถั่วแดง หอม ลูกมะกอก อันม่อน แอปเปิ้ล กล้วย มันฝรั่ง มะเขือเทศ
กลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
ทารกในครรภ์ ถ้าร่างกายขาดไอโอดีน จะทำให้สมองเจริญเติบโตช้า ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการพิการตั้งแต่กำเนิดได้ และภาวะปัญญาอ่อนไปตลอดชีวิต อาการจากการขาดไอโอดีนตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์เรียกว่าภาวะ Cretinism (สภาวะแคระโง่) คือเด็กจะ แคระแกรน ปัญญาอ่อน ตาเข หูหนวก เป็นไบ้ และ กล้ามเนื้อชักกระตุก
ทารกหลังคลอด ถ้าร่างกายขาดไอโอดีนจะทำให้ เด็กเติบโตช้า มีสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์และอาจจะมีต่อมไทรอยด์โต(คอพอก)
สำหรับผู้ใหญ่ ถ้าร่างกายขาดไอโอดีน จะทำให้เกิดโรคคอพอก (Simple Goiter) ส่งผลให้ไอสำลัก หายใจลำบาก และถ้าไปกดหลอดอาหารก็จะกลืนอาหารลำบากด้วยเช่นกันมีวิธีการดูแลตนเองด้วยการกินอาหารทะเลและใช้เกลือจากทะเลหรือเกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหารแต่ไม่ควรกินยาไอโอดีนเสริมอาหารเพราะจะมีผลข้างเคียงและโทษหลายอย่าง
ในประเทศไทย พื้นที่ที่พบว่าผู้ที่เป็นคอพอกมากที่สุด ก็คือทางภาคเหนือและภาคอีสานส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้ภูเขา ที่ราบสูง ซึ่งมีความไม่สะดวกในการเดินทางขนส่ง และมีฐานะความเป็นอยู่ข้างยากจน จึงส่งผลให้เกิดการขาดสารอาหารจำพวกโปรตีนและไอโอดีน
ดังนั้น SN Food อาหารเพื่อสุขภาพ อยากขอให้ท่านผู้อ่าน ดูแลตนเอง ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิด การขาดไอโอดีนจากอาหาร โดยการกินอาหารทะเลและใช้เกลือจากทะเลหรือเกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร และน้ำปลาที่ทำจากเกลือทะเล แต่ไม่ควรกินยาไอโอดีนเสริมอาหารเพราะจะมีผลข้างเคียงหรือโทษหลายอย่าง และถ้ามีอาการผิดปกติต่าง ๆ หรือเมื่อเด็กโตช้าควรพบแพทย์เสมอ เพื่อหาสาเหตุเพื่อการรักษาแต่เนิ่นๆ