ไวรัสตับอักเสบบี ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด
การรับประทานอาหาร ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการที่เราได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถือเป็นปัจจัยหลักและพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี ในปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา รวมไปถึงการรับประทานอาหาร ทำให้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งวันนี้ ทาง SNFood อาหารเพื่อสุขภาพ เราจะมาพูดถึงโรคไวรัสตับอักเสบบี และอาหารที่ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรที่จะหลีกเลี่ยง สำหรับโรคไวรัสตับอักเสบบี คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดบี สามารถติดต่อทางเลือด น้ำเชื้อ และน้ำหลั่งอย่างอื่น เช่น น้ำเหลือง โดยสามารถรับเชื้อได้โดยการมีเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การใช้เข็มสักตามตัวหรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกัน และการเจาะหู การใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ที่ตัดเล็บร่วมกัน การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ ถ้าหากแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อถึง 90% และการสัมผัสกับเลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล แต่อย่างไรก็ตาม เชื้อดังกล่าว จะไม่ติดต่อกันทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบกัน ถ้าปากไม่มีแผล และวันนี้ทาง SNFood อาหารเพื่อสุขภาพเราจะมาพูดถึงการรับประทานอาหารของผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด เพื่อไม่ให้อาการกำเริบหรือแย่ลง แต่อาการหรือการเกิดโรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ แต่เราควรที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของการรับประทานอาหารเป็นอันดับแรก คือ ต้องรับประทานอาหารให้มากพอกับความต้องการของร่างกาย สารอาหารต่าง ๆ ที่ควรได้รับก็เช่นเดียวกับคนทั่วไปเป็นหลัก
สำหรับหลักการดูแลตนเองทั่วไปสำหรับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี อย่างแรกเลยคือ การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมถึงการสูบบุหรี่ และควรที่จะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ พยายามลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารผัดน้ำมันเยอะ ๆ เนื้อสัตว์ที่มีมันมาก หลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ เช่น ถั่วลิสง พริกแห้งที่อาจปนเปื้อนเชื้อรา เนื้อสัตว์ปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม เพราะอาจจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงอาหารที่อาจใส่ดินประสิว เช่น ไส้กรอก เบคอน เนื้อเค็ม ปลาเค็ม ของหมักดอง แหนม อาหารสุก ๆ ดิบๆ เช่น ปลาร้า เป็นต้น นอกจากนี้ถ้าหากผู้ป่วยต้องการรับประทานอาหารเสริม ทาง SNFood ไม่แนะนำให้ซื้ออาหารเสริมทานมารับประทานเอวโดยเด็ดขาด สำหรับยาที่ใช้กันโดยทั่วไปที่ต้องระวัง เช่น พาราเซตามอล แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาแก้แพ้หลายๆ ชนิด เป็นต้น หากจำเป็นต้องรับประทาน ให้รับทานในขนาดที่กำหนดและใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ และเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น 2-3 วัน ห้ามใช้ติดต่อกันนาน ดังนั้น การดูแลรักษาหรือการป้องกัน เราควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และเลือกรับประทานอาหารที่ไม่อยู่ใกลุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายและโรค เพราะฉะนั้น เราคสรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมในปริมาณที่พอเหมาะ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ แต่สำหรับไวรัสตับอักเสยบีชนิดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะมีอาการเด่นชัด กรเลือกรับประทานอาหารก็ถือว่าเป็นการฟื้นฟูเซลล์ตับที่เสียหายจากอาการอักเสบ และชดเชยสารอาหารที่จำเป็นต่าง ๆ ให้กับตับอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบ อาจจะมีอาหารเบื่ออาหารได้ ซึ่งทาง SNFood อาหารเพื่อสุขภาพ เราก็มีคำแนะนำในช่วงที่เบื่ออาหารในผู้ป่วย ซึ่งช่วงที่มีอาการอักเสบเฉียบพลันระยะแรกจนกว่าจะทุเลา จะมีอาการเบื่ออาหาร ดังนั้นควรเลือกอาหารที่ผู้ป่วยชอบและวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้เพื่อให้ผู้ป่วยกินได้มากขึ้น เช่น ควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นอาหารหลักของมื้อ ควรเปลี่ยนสลับกันบ้างอย่าเหมือนกันทุกครั้ง เช่น มื้อเช้าเป็นโจ๊กหรือข้าวต้ม กลางวันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เย็นเป็นแซนด์วิช เป็นต้น ควรเป็นอาหารรสอ่อน ช่วงนี้ถ้าเป็นอาหารรสเผ็ดหรือรสจัด จะทำให้กระเพาะเกิดความระคายเคืองง่าย ควรรับประทานอาหารร้อนๆ จัดแต่งหน้าอาหารให้ดูน่ากิน จัดให้ดูมีสีสันน่ากิน กินขนมที่มีส่วนผสมของนมและแป้ง เช่น บิสกิต คัสตาร์ด เพื่อให้ได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น สำหรับสารอาหารจำพวกไขมัน ควรใช้เป็นชนิดเหลว เช่น ใช้ในรูปของเนยสด มายองเนสแบ่งกินทีละน้อย ประมาณ 4-5 ครั้ง/วัน ควรเป็นอาหารที่เคยอยากกินหรือชอบกินเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และหลังจากอาการดีขึ้น เริ่มมีความอยากอาหาร คราวนี้ก็ต้องเป็นอาหารที่มีโปรตีน พลังงาน และวิตามินสูง โดยเฉพาะวิตามินเอ บี ซี และอี ทาง SNFood อาหารเพื่อสุขภาพ เราอยากให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้มีสุขภาพดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข