รู้หรือไม่ ถั่วเขียว มีทั้ง ประโยชน์ และ โทษ
ถั่วเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายคือ ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้และกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานราบรื่น วิตามินกลุ่มบีช่วยให้ระบบประสาททำงานปกติ วิตามินซีและวิตามิน อีช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความแก่ โพแทสเซียมช่วยขับน้ำและลดอาการบวมน้ำ
ถั่วเขียวกินได้ประโยชน์ เหมาะสำหรับบุคคลต่อไปนี้
- ควรกินเมื่อตัวร้อนหรือรู้สึกไม่สบาย
- เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง หรือผู้มีอาการบวมน้ำ
- เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นลมแดด
ถั่ว เขียวไม่เหมาะสำหรับบุคคลต่อไปนี้
- ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอไม่ควรกินมาก
- ผู้ที่ท้องเสียง่ายหรือปัสสาวะบ่อยไม่ควรกินมาก
- ผู้ที่กินยาบำรุงร่างกายควรเลี่ยง
ถั่วเขียวที่สามารถกินคู่กับอาหารชนิดอื่นได้ ทำให้เกิดประโยชน์ ได้แก่
- ถั่วเขียวที่กินคู่กับนมวัว กลายเป็นสารไนอะซิน (niacin)
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ในถั่วเขียวจะมีวิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 เมื่อกินคู่กับนมสดที่มีกรดทริปโตเฟนจะช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ ระบบย่อยอาหาร และระบบประสาทให้แข็งแรง
- ถั่วเขียวกินคู่กับวอลนัต จะทำให้วิตามินอีทำงานได้ดีขึ้น
ผลลัพธ์ก็คือ ถั่วเขียวจะมีวิตามินซีและอี ส่วนวอลนัตจะมีวิตามินอี เมื่อนำมากินคู่กันจะช่วยบำรุงผิวพรรณชะลอความแก่ ป้องกันโรคมะเร็ง กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
ถั่วเขียว ที่ไม่ควรกินคู่กับอาหารชนิดอื่นทำให้เกิดโทษ ได้แก่
1.ถั่วเขียวที่กินคู่กับเนื้อหมู จะทำให้อาหารไม่ย่อย
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เมื่อโปรตีนจากพืชที่อยู่ในถั่วเขียวรวมกับโปรตีนจากสัตว์ในเนื้อหมู ปริมาณน้ำย่อยและเวลาการย่อยของโปรตีนทั้งสองชนิดแตกต่างกัน หากกินในปริมาณมากจะส่งผลต่อการย่อยอาหารและของกระเพาะและลำไส้
- ถั่วเขียวที่กินคู่กับข้าวกล้อง ทำให้ลดคุณค่าทางสารอาหารของอาหารอีกอย่าง
ผลลัพธ์ก็คือ ถั่วเขียวอุดมไปด้วยโปรตีน เมื่อกินคู่กับข้าวกล้องที่อุดมไปด้วยกรดโฟติกจะขัดขวางการดูดซึมอาหารทั้งสองชนิดเข้าสู่ร่างกาย
ถั่วเขียวมีสารอาหารที่ช่วยขจัดสารพิษได้ ได้แก่
- เส้นใยอาหาร ดูดน้ำในลำไส้ เพิ่มปริมาณของอุจจาระและทำให้อุจจาระอ่อนตัว กระตุ้นให้สารพิษถูกขับออกจากร่างกายพร้อมอุจจาระ ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเพราะเส้นใยอาหารมีความเหนียวมักรวมตัวเป็นก้อนและหุ้มอาหารไว้ข้างใน มีคุณสมบัติลดคอเลสเตอรอล
- โพแทสเซียม ถั่วเขียวมีโพแทสเซี่ยมสูง จึงช่วยขับเกลือออกจากร่างกายป้องกันไม่ให้โซเดียมสะสมในร่างกายมากเกินไปจนเป็นเหตุให้ความดันโลหิตขึ้นสูง ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
- สารใดออสจีนิน ถั่วเขียวมีสารใดออสจีนิน ที่มีความเป็นด่างน้อยมีคุณสมบัติขับปัสสาวะและลดอาการบวมน้ำ ขจัดคอเลสเตอรอลและไขมันที่มีฤทธิ์เป็นกลางในเลือด
- สารไฟโตสเตอรอล ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในทางเดินอาหาร และขัดขวางการรวมตัวกันของคอเลสเตอรอลในตับ ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ทั้งยังควบคุมการทำงานของแบคทีเรียอีกด้วย
- กรดแทนนิก เปลือกถั่วเขียวมีกรดชนิดนี้อยู่ราวร้อยละ 0.05 ซึ่งช่วยควบคุมแบคทีเรียสแตพิโลค็อกคัสออเรียส แก้พิษจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยจับตัวกับสารโลหะจนกลายเป็นสารที่ดูดซึมยาก จึงทำให้ความเป็นพิษลดลงที่หายไป
ถั่วเขียวมีประสิทธิภาพในการขจัดสารพิษ
1.ขจัดสารพิษในร่างกาย แก้อาการบวมน้ำ เป็นหนองและท้องผูกที่เกิดจากความร้อนในร่างกาย
- ขจัดสารพิษจากสารโลหะ เมื่อคนสูดดมหรือกินอาหารที่มีสารโลหะปนเปื้อน สารโลหะเหล่านี้จะถูกส่งไปยังตับและถูกขับออกจากร่างกายทางลำไส้ แต่บางส่วนจะถูกลำไส้ดูดซึมไว้กรดแทนนิกในถั่วเขียวจะจับตัวกับสารโลหะเหล่านี้จนตกตะกอน เพื่อให้ความเป็นพิษในร่างกายน้อยลงหรือหายไป จากนั้นเส้นใยอาหารจะขัดขวางไม่ให้ลำไส้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และขับออกจากร่างกายโดยเร็ว
3.ขจัดพิษสุรา เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกิน แอลกอฮอล์จะสะสมอยู่ที่ตับและสมอง เมื่อสะสมจนถึงระดับหนึ่งจะทำให้เกิดอาการเป็นพิษ กรดแทนนิกช่วยแก้อาการเป็นพิษจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้
- ขจัดสารพิษในลำไส้ ลำไส้เป็นที่เก็บสะสมของเสียจากเมแทบอลิซึมและสารพิษจากตับ ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียหายต่อร่างกาย เส้นใยอาหารในถั่วเขียวจะช่วยให้ของเสียเหล่านี้จะถูกขับออกจากร่างกายพร้อมอุจจาระ
5.ขจัดสารพิษในเลือด เส้นใยอาหารในถั่วเขียวช่วยลดคอเลสเตอรอลที่มีความหนาแน่นต่ำ ซึ่งอยู่ในเลือดและป้องกันไม่ให้เกาะตัวที่ผนังหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ โพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันความดันโลหิตสูง
จะเห็นได้ว่าถั่วเขียวมีประโยชน์มากกว่ามีโทษ ถ้าทุกท่านปฏิบัติตามคำแนะนำในการกินถั่วเขียวให้ถูกต้องก็จะมีประโยชน์กับร่างกายเป็นอย่างมาก ทาง SN หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้รักษาสุขภาพ หันมากินถั่วเขียวกันดีกว่า