การจัดเลี้ยงนอกสถานที่นั้น สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือ เรื่องของธีมงาน การจัดรูปแบบของงาน อาหารที่วางบนโต๊ะ ซึ่งไม่ว่าเราจะจัดแบบไหน เมนูอาหารก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ไม่แพ้ส่วนไหนๆ เลยทีเดียว เพราะในระหว่างที่ทำพิธีการนั้น ก็ต้องมีอาหารไว้เพื่อรองรับแขกด้วย โดยเฉพาะการจัดเลี้ยงนอกสถานที่นั้น เรื่องเมนูอาหาร ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรปล่อยผ่านเช่นกัน แต่จะมีเมนูอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย!   ส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารคาว และอาหารหวาน ซึ่งปกติแล้วบริษัทหรือห้างร้านที่จัดทำเมนู จะแบ่งเป็นหมวดหมู่อาหารออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกดูได้สะดวก ซึ่งจะมีหลายเมนูให้เลือกแตกต่างกันไปตามลักษณะการจัดเลี้ยง เช่น การจัด แบบบุฟเฟต์ แบบค็อกเทลหรือแบบโต๊ะจีน ก็จะมีสไตล์ของเมนูอาหารที่นำมาเสิร์ฟแตกต่างกันไป สำหรับวันนี้เรามาโฟกัสกันที่การจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนกันค่ะ ว่ามีเมนูอะไรบ้างที่เราไม่ควรพลาด 1.ผัดหมี่ อีกหนึ่งเมนูที่สามารถนำมาใช้ในการจัดเลี้ยงได้ทั้งแบบบุฟเฟต์ หรือค็อกเทล แถมยังประยุกต์โดยการใส่เครื่องได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับแขกในงานของเราเลยค่ะ ว่าชอบหรือไม่ชอบรับประทานอาหารแบบไหน 2.กระเพาะปลา เป็นอีกหนึ่งเมนูคลาสสิกแบบไทยๆ ที่รสชาติดีและใครๆ ก็สามารถรับประทานได้ แถมยังมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะปลาทั่วไป กระเพาะปลาน้ำแดง หรือกระเพาะปลาผัดแห้ง เป็นต้น 3.ผลไม้รวม เป็นเมนูที่จัดผลไม้หลายๆ ชนิดเข้าไว้ด้วยกัน หรืออาจจะตั้งวางไว้ข้างๆ น้ำสลัด ในกรณีที่จัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ เพื่อให้แขกสามารถรับประทานเป็นผลไม้ทั่วไป หรือจะรับประทานเป็นสลัดผลไม้ก็ได้ อิ่มอร่อย แถมไม่อ้วนอีกด้วย.

การวางแผนงานต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง งานเลี้ยงในยุคสมัยนี้ มีหลากหลายแตกต่างกันออกไป ทั้งในส่วนของงานเลี้ยงในหน่วยงานราชการ งานเลี้ยงบริษัท หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ที่จัดกันเองภายในครอบครัว ผู้ที่ทำธุรกิจงานเลี้ยง ในปัจจุบันจะสามารถตอบโจทย์ให้แก่ผู้คนได้หลากหลายสายงานอาชีพ ซึ่งผู้ว่าจ้างสามารถที่จะเลือกจ้างได้ตามความพึงพอใจและตามรูปแบบของงาน การวางแผนงานเลี้ยงต่างๆ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 1.จำนวนของแขกผู้มาร่วมงาน จำนวนผู้ร่วมงานที่แน่นอน จะสามารถทำให้ผู้จัดงานทราบได้ว่า ควรจัดเตรียมอาหารเท่าไร เตรียมโต๊ะในงานอย่างไร เตรียมสถานที่แบบไหนและเมนูอาหารที่เหมาะสมจะมีอะไรบ้าง เป็นต้น เพื่อที่จะป้องกันการขาดเหลือของอาหารภายในงาน รวมทั้งการจัดเตรียมที่จอดรถบริเวณหน้างานอีกด้วย 2.งบประมาณ ผู้จัดงานเลี้ยง จำเป็นต้องติดต่อประสานงานในเรื่องของงบประมาณกับผู้ว่าจ้างให้แน่นอน เพื่อที่จะควบคุมงบประมาณให้เหมาะสมกับงาน และไม่ให้บานปลายในภายหลัง 3.สถานที่ จำนวนของแขกที่มาร่วมงานนั้นสัมพันธ์กับสถานที่ หากแขกมีจำนวนมาก ก็อาจจะต้องเลือกสถานที่ที่มีขนาดกว้างใหญ่ขึ้น เช่นสนามหญ้า ลานหน้าโรงแรม หรือหอประชุมต่างๆ ที่มีขนาดกว้างและเหมาะสม 4.อาหารและเครื่องดื่ม ควรจัดให้เหมาะสมกับจำนวนแขก และช่วงอายุของแขกที่มาร่วมงาน สิ่งสำคัญคือการสำรองไว้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องดื่ม เพราะเครื่องดื่มเป็นสิ่งสำคัญที่ในงานเลี้ยงแทบทุกงานจะขาดไม่ได้ 5.อุปกรณ์ทำอาหาร ทุกอย่างควรมีการจัดสรรที่เหมาะสม เช่น การจัดเตรียมหม้อ กระทะ ตะหลิว มีด หรืออุปกรณ์ทำครัวต่างๆที่ใช้สำหรับงานเลี้ยงนั้นๆ หากจำเป็นต้องทำอาหารหรือเมนูใดๆ ก็ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอ 6.โต๊ะอาหารและของใช้ จำพวก จาน ชาม แก้วน้ำ .

การจัดเลี้ยง คือการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและแขกผู้ร่วมงาน  ผู้ดำเนินธุรกิจจัดเลี้ยงต้องควบคุมดูแลภาพรวมของงานให้สมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจเรื่องรูปแบบของงานที่ลูกค้าต้องการ รายละเอียดในงานต่างๆ ว่าต้องเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และบุคลากรอย่างไรบ้าง การตกแต่งสถานที่ต้องดำเนินไปอย่างไร หน้าตาและรสชาติอาหาร เป็นต้น ในวันนี้เราจะพูดถึงการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและแขกที่มาร่วมงานเลี้ยง ซึ่งกว่าที่งานที่จัดจะออกมาสมบูรณ์แบบได้นั้น ผู้จัดงานต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก การติดต่อประสานงาน เราต้องคุยกับเจ้าของงานก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลต่างๆเบื้องต้น เช่น จะจัดเลี้ยงเนื่องในวาระโอกาสใด งานบวช งานวันเกิด งานแต่งงาน งานเลี้ยงปลดเกษียณ หรืองานเลี้ยงบริษัท เจ้าของงานเป็นคนแบบไหน อายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร แขกเป็นใคร ระดับใดบ้าง เพื่อที่เราจะได้ตีโจทย์ และแนะนำรูปแบบที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ หรือถ้าหากเจ้าของงานมีรูปแบบงานอยู่ในใจแล้วสิ่งนี้ก็จะช่วยให้งานสำเร็จง่ายขึ้น ง่ายต่อการจัดงานให้ถูกใจ โดยทั่วไปแล้วรูปแบบของการจัดเลี้ยงมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน 1.งานเลี้ยงแบบค็อกเทล เป็นงานเลี้ยงที่มีจำนวนแขกในงานเป็นจำนวนมาก รูปแบบของงานก็จะเป็นการจัดโต๊ะบริการอาหารโดยรอบๆงาน เพื่ออำนวยความสะดวก ให้แขกได้เดินเลือกได้ตามอัธยาศัย โดยส่วนมากจะเป็นอาหารทานเล่น ขนาดพอดีคำ งานเลี้ยงแบบนี้จะมีพนักงานเดินถือถาดคอยบริการเครื่องดื่มตลอดทั้งงาน ซึ่งเครื่องดื่มก็มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ จัดได้ทั้งในอาคารและนอกอาคารในรูปแบบที่ไม่เป็นพิธีการมากนัก 2.งานเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ งานเลี้ยงบุฟเฟต์จะเป็นอาหารที่หนักท้องกว่าแบบค็อกเทล โดยจะมีทั้งอาหารคาวหวานครบครัน ซึ่งจะมีการจัดอาหารเรียงรายไว้ให้แขกเลือกตักแล้วนำไปรับประทานที่โต๊ะ บนโต๊ะจะมีการจัดวางช้อนส้อม แก้วน้ำ หรือบางงานอาจจัดวางภาชนะอุปกรณ์ เช่น จาน ช้อนส้อม ถ้วยชาม.

การสั่งอาหาร และการจัดเตรียมอาหารไว้สำหรับรับรองแขกที่มาร่วมงานนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของงานแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในงานให้ดูดีขึ้นมาได้ และเราจะทราบได้อย่างไรว่าเราควรจะสั่งอาหารแบบไหนมาขึ้นโต๊ะงานเลี้ยง สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือแขกผู้มาร่วมงาน และรูปแบบของงาน ต้องคำนวณเปอร์เซ็นของแขกส่วนใหญ่ ว่าอายุอยู่ในระดับใด เช่น หากในงานเลี้ยงมีเด็กๆเป็นส่วนมาก เราก็ต้องจัดเตรียมอาหาร หรือเครื่องดื่มสำหรับเด็กให้เป็นส่วนมาก อาหารที่ต้องมีเพิ่มขึ้นอาจจะต้องเป็นของทานเล่นที่มีประโยชน์ เช่นขนมขบเคี้ยวที่มาจากธัญพืช  ขนมเค้กสำหรับเด็กๆ ขนมหรืออาหารที่มีสีสันชวนกิน เครื่องดื่มน้ำผลไม้ น้ำหวาน เป็นต้น อันดับต่อมา หาก 90% ในงานเลี้ยงนั้น มีแขกผู้ใหญ่ หรือผู้คนในวัยทำงาน ที่มีอายุเฉลี่ยราวๆ 30+ เราก็ต้องจัดอาหารที่หลากหลาย ซึ่งมีทั้ง อาหารทานเล่น เน้นจำพวกตระกูล ถั่ว เต้าหู้ปลา ไข่ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย หลังจากนั้นจึงจะทยอยจัดเสิร์ฟอาหารต่างๆตามมา เช่น จำพวก ปลา ที่ย่อยง่าย หรือ ไก่ กุ้ง หมู ข้าว ตามลำดับ  ส่วนเครื่องดื่มนั้น ก็ให้เน้นที่แขกในวัยนี้นิยมดื่มกัน อาจจะเป็น น้ำพั้นซ์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มต่างๆ ตามวาระของงาน.

การคุยงานที่ไม่ลงตัว                      งานทุกงานมักจะเจอะเจอกับปัญหาแบบนี้เสมอ ในเรื่องของการคุยงานที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกลงกันได้ ยกตัวอย่างเช่น คุยกันไว้ว่าช่วงพิธีการเป็นแบบหนึ่ง แต่ในวันจัดงานจริงๆกลับต้องเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เลื่อนพิธีการออกไปอย่างเสียมิได้ หรือเปลี่ยนตัวพิธีกรกระทันหัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่งานเลี้ยงนั้นๆแม้จะเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้งานเสียบรรยากาศที่ดีไปโดยปริยาย การว่าจ้างงานที่ไม่ละเอียดรอบคอบ                      ปัญหาในเรื่องของรายละเอียดงานนั้น มักจะเกิดขึ้นกับผู้จัดและผู้จ้างแทบทุกราย เช่น การเช่าสถานที่ หรือห้องประชุม กำหนดเวลา หากเป็นช่วงเช้า ก็อาจจะกำหนดไว้ประมาณ ช่วงเช้า จนถึงเที่ยง แต่พอถึงวันจัดงานจริงๆ อาจจะมีการล่วงเวลา เกินกำหนดเวลา ทำให้ต้องจ่ายเงินส่วนเกินให้กับสถานที่นั้นๆ และทำให้ผิดระบบ ผิดแผนไปหมด การชำระเงิน                      เรื่องนี้เป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้ ก็อีกเช่นเคย หากการคุยงานที่ไม่ละเอียดพอ ก็จะคลาดเคลื่อน หรือเกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่าย ทั้งในเรื่องของค่ามัดจำ เรื่องค่าประกันข้าวของเสียหาย ยกตัวอย่างในเรื่องของวงดนตรีในงานเลี้ยง ตอนที่คุยติดต่อครั้งแรก  เป็นรูปแบบวงแบบหนึ่ง แต่พอวันงานจริงๆ เกิดการเข้าใจผิด นักดนตรีที่มาทำการแสดงในงานเลี้ยง มีจำนวนมากกว่าที่คุยกันไว้ อาจจะต้องทำให้จ่ายเงินเพิ่ม หรือมีปัญหาเรื่องการชำระเงิน หรือเรื่องอุปกรณ์ในภายหลัง ปัญหาการชำระเงินที่ล่าช้าของผู้จ้าง เป็นต้น ของใช้เสียหาย                     .

การจัดงานเลี้ยงนอกสถานที่ สิ่งสำคัญในลำดับแรกคือเรื่องของอาหาร ในงานทุกงาน นอกจากการจัดงานที่ดูสวยงาม และมีสีสันตามรูปแบบของงานแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือในเรื่องของอาหารที่จะต้องนำมาเสิร์ฟในทุกโต๊ะของแขกผู้มาร่วมงาน สำหรับเมนูยอดฮิต หรือเมนูที่งานเลี้ยงทุกที่จะต้องมี มีดังนี้ค่ะ 1.เมนูออเดิร์ฟ หรือ เมนูทานเล่น เมนูที่ว่านี้ อาจจะเป็นในส่วนของ ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ปลา ลูกชิ้นทอด เมนูทอดต่างๆ ไข่เยี่ยวม้า ขิงดอง เมนูปิ้ง ย่าง เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเครื่องเคียงต่างๆ 2.เมนูกระเพาะปลา หรือกระเพาะปลาน้ำแดง 3.เมนูปลา อาจจะเป็นปลาทรงเครื่อง ปลานึ่งมะนาว 4.เมนูกุ้งอบวุ้นเส้น 5.เมนูผัดห้าเซียน 6.เมนูต้มยำ หรือ ยำต่างๆ 7.เมนูขาหมูหมั่นโถ หรือขาหมูพะโล้ 8.เมนูข้าวผัด อาจจะเป็นข้าวผัดปู หรือข้าวผัดไข่ 9.เมนูตบท้าย ขนมหวาน อาจจะเป็น แปะก้วยมะพร้าวอ่อน เงาะกระป่อง ลูกตาลลอยแก้ว ทั้งนี้ ทางผู้ว่าจ้างสามารถที่จะติดต่อประสานงานเพิ่มเติม ในส่วนของการเพิ่ม หรือลดเมนูอาหารกับผู้จัดได้ค่ะ ซึ่งก็จะเป็นกรณีไป อาจจะในเรื่องของเงินทุน หรือตามความเหมาะสมของงานเลี้ยงต่างๆ

การจัดงานเลี้ยงในแต่ละครั้งนั้น แน่นอนว่า จะต้องประกอบไปด้วยการติดต่อประสานงาน การวางแผนงาน การคิดรูปแบบงาน การออกแบบงานเลี้ยง การออกแบบธีมงานเลี้ยง ติดต่อประสานงานเรื่องอาหาร ไหนจะเครื่องดื่ม การจัดตกแต่งสถานที่ และอีกมากมาย ฯลฯ ซึ่งข้อความข้างต้น ก็สามารถใช้เป็นเหตุผลในการตอบคำถามที่ว่า ผู้จัดงานเลี้ยงมีบทบาทและความสำคัญอย่างไร จำเป็นแค่ไหนที่เราจะต้องทำการว่าจ้างผู้จัดงานเลี้ยง แน่นอน ใครๆก็อยากให้งานของตัวเองออกมาดูดี และสมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น มันจะดีกว่าไหม ถ้าหากจะมีใครสักคนที่มีประสบการณ์ชำนาญงาน ที่สามารถที่จะวางรูปแบบงานเลี้ยงให้เราอย่างมืออาชีพ โดยที่เราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยลงมือทำเองทั้งหมด มีคนคอยจัดระบบระเบียบงานให้ โดยที่เราไม่ต้องทำเอง หากเราต้องการจัดงานเลี้ยงในครั้งใดก็ตาม สิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วยก็คือ ความสมบูรณ์แบบของงาน ความพึงพอใจของผู้ร่วมงาน ความสนุกสนานของผู้คนในงาน บรรยากาศงานโดยรวมที่ดูไม่น่าเบื่อ งานเลี้ยงทุกๆงาน ต้องมีการลงทุน และลงแรงเป็นสำคัญ จะดีแค่ไหน หากเราแค่ทำในส่วนของการลงทุน ส่วนเรื่องการลงแรงนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัด ที่เราว่าจ้างมาดูแลให้ตลอดงาน หากการติดต่อคุยงานประสานงานนั้น เป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อยดี แน่นอนว่า งานเลี้ยงที่ออกมานั้น จะต้องดีและสมบูรณ์แบบตามไปด้วย                      

ผู้ที่จัดงานเลี้ยงต่างๆนั้น สิ่งสำคัญ ผู้จัดควรจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการจัดงานเลี้ยงมาก่อน ซึ่งก่อนจะเป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่เคยผ่านการจัดงานเลี้ยงมาแล้วหลายงาน หลายรูปแบบ เพราะเมื่อผู้จัดงานเลี้ยงผ่านเรื่องราวต่างๆเหล่านั้นมา จะสามารถทราบได้ทันทีว่า การจัดงานเลี้ยงในครั้งต่อไปนั้น จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง จึงจะสามารถรับมือได้กับทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามา และงานเลี้ยงที่จัดนั้น จะสามารถผ่านพ้นไปด้วยดี การมีประสบการณ์ในที่นี้ สามารถแบ่งย่อยออกมาได้ดังนี้คือ อันดับแรก คือการติดต่อประสานงาน การติดต่อประสานงานระหว่างผู้จัด กับ ผู้จ้าง การจัดงานเลี้ยงหลายๆงานจะมีปัญหาที่อาจจะไม่เหมือนกัน ในบางกรณีก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล เช่น ปัญหาที่เกิดจากความกังวลใจของผู้จ้าง ที่กลัวว่าหากจัดงานออกมาแล้วงานจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่หากผู้จัดงาน เป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ ปัญหาเล็กๆน้อยๆ หรือปัญหาที่มีขนาดใหญ่ตามลำดับ ก็จะไม่เป็นปัญหากวนใจอีกต่อไป อันดับที่2 การจัดระเบียบความเรียบร้อยภายในงาน บางที งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปด้วยดี อาจจะสะดุดเพราะสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้าม เช่น เด็กๆในงานวิ่งเล่นสะดุดสายไฟ ทำให้ไฟดับ หรือปัญหาในส่วนอื่นๆของงาน หากผู้จัดเป็นผู้ที่สามารถแก้ปัญหาและทราบถึงระบบกลไกต่างๆในงาน ในจุดนี้ได้ งานเลี้ยงก็จะดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบจนจบงาน อันดับที่3 การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในงานเลี้ยงบางงาน หรือบางกรณี อาจจะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นเช่น ไฟดับ แก้วแตก จานไม่พอ ซึ่งผู้จัดสามารถที่จะเตรียมการไว้ก่อนแล้ว อาจจะเป็นการบอกกล่าวกับผู้จ้างไว้ก่อน ในส่วนของในเรื่องค่าเสียหายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ค่ามัดจำ ค่าประกันต่างๆ.

การจัดงานเลี้ยงต่างๆนั้น บรรยากาศภายในงาน เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้งานเลี้ยงนั้นดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ราบรื่น และไม่น่าเบื่อ แต่ว่าเราจะสามารถสร้างบรรยากาศของงานได้อย่างไร ? …..เรื่องนี้ไม่ยากเลยค่ะ กับเทคนิคการสร้างบรรยากาศงานปาร์ตี้ ให้ตรงใจ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย การเลือกสถานที่          แน่นอนว่า การที่เราจะจัดงานเลี้ยงสักงาน เราจะต้องคำนึงถึง สถานที่ที่เหมาะสมกับรูปแบบงานของเรา คำนึงถึงจำนวนคน จำนวนแขก หรือผู้คนในงาน บรรยากาศ งบประมาณในการจัดงาน การจัดงานเลี้ยงที่ต้องการเน้นบรรยากาศที่สบายๆ เราก็สามารถจะหาทำเลที่เหมาะสม เช่น บ้านพักตากอากาศ ชายหาด หรือ ริมสระว่ายน้ำในโรงแรมต่างๆ เราก็จะได้บรรยากาศในแบบสบายๆ และเป็นกันเองได้เลยค่ะ การสร้างบรรยากาศโดยการกำหนดธีมของงาน          งานเลี้ยงโดยส่วนใหญ่นั้น ก็จะต้องมีรูปแบบ หรือธีมประจำงานกันทั้งสิ้น เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศในงาน หากเราอยากจะให้งานเลี้ยงเราเป็นแบบไหน ก็ต้องกำหนดธีมงานขึ้นมา เช่น วันนี้งานเลี้ยงของบริษัท จะต้องเป็นแนวสนุกสนาน แนวสีสันหลากหลาย เราก็อาจจะกำหนดให้พนักงานบริษัททุกคนที่เข้ามาในงานเลี้ยงนั้น จะต้องแต่งตัวแนววินเทจ สีสันฉูดฉาดสะดุดตา แค่นี้ ก็จะช่วยทำให้บรรยากาศภายในงานดูน่าสนุก ตื่นเต้น และครึกครื้นได้แล้วค่ะ ตกแต่งสถานที่ ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ มีวัสดุอุปกรณ์ที่หลากหลายตามท้องตลาด.

การจัดงานเลี้ยงต่างๆนั้น รูปแบบอาหารอาจจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ตามสถานที่ หรือตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดยรูปแบบอาหารส่วนใหญ่ที่มักจะได้พบเป็นประจำ ก็จะมีตัวอย่างเช่นรูปแบบของอาหารชุด หรือที่เรียกกันติดปากว่า “โต๊ะจีน” ที่ทะยอยยกเสิร์ฟกันออกมาตามเวลา และมีข้าวผัดปิดท้าย          งานเลี้ยงในรูปแบบที่เรียบง่าย อาจจะจัดสรรอาหารกันในรูปแบบของข้าวกล่อง เพื่อสะดวกในการขนย้าย การรับประทาน และการเก็บกวาดทำความสะอาด หากเป็นงานเลี้ยงในบางบริษัท อาจจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เพื่อความสะดวกสบายของพนักงานบริษัทและผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด งานเลี้ยงทุกงานจะสมบูรณ์แบบไม่ได้ หากไม่มีอาหารที่เป็นสีสันที่สำคัญของงาน          ในวันนี้ ก็มีตัวอย่างอาหารไทยน่ารับประทาน ที่สามารถจะนำไปใช้เป็นไอเดียในการจัดเลี้ยงในงานต่างๆมาฝากทุกท่านกันค่ะ เมนูแรก “ปลาอินทรีย์ทอด และ ยำมะม่วง” วัตถุดิบและเครื่องปรุง 1.ปลาอินทรีย์ 2 ชิ้น                                                              6.น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ 2.มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น 1 ผล                              7.ผักชี (ตามชอบ) 3.หอมแดงซอย 1/3  ถ้วยตวง                                    8.น้ำเปล่า  ¼ ถ้วยตวง 4.พริกขี้หนูซอย  1  ช้อนโต๊ะ                                   9.เกลือป่น ¼.