การกินลดความเสี่ยง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

ในปัจจุบันนี้จะพบว่าอัตราการเกิดของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น  มีงานวิจัยพบว่าพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ดีอาจจะนำไปสู่สาเหตุของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ และมีรายงานการวิจัยว่าแม่ผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากก็สามารถที่จะลดความเสี่ยงการตายจากโรคนี้ ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค  (จากหนังสืออาหารบำบัดโรค โดยอาจารย์ศัลยา  คงสมบูรณ์เวช)

  1. ด้วยการลดน้ำหนัก ข้อมูลจากการวิจัยพบว่า ผู้ที่อ้วนโดยเฉพาะอ้วนลงพุงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากสูงกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตามเกณฑ์มาตรฐาน

ด้วยวิธีการลดอาหารไขมันสูง เช่น  แกงกะทิ ของทอดกรอบ เนื้อสัตว์ติดมัน  ขนมเบเกอรี่  ขนมหวาน เลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ  และให้คุณค่าอาหารสูง  ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

2. ลดอาหารประเภทไขมันสูง  เพราะ อาหารประเภทไขมันสูง จะช่วยเร่งให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้ดีขึ้นนอกจากนี้ยังจะทำให้อ้วน  ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคนี้และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ไขมันทำให้ระดับฮอร์โมนเพศสูง   ทั้งนี้ระดับฮอร์โมนเพศมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากเช่นเดียวกับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง       กรดไขมันชนิดที่เป็นอันตรายต่อเซลล์มะเร็งอันดับหนึ่งคือ กรดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ อาจจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของมะเร็ง     รองลงมาก็คือไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง เช่น  กรดไลโนเลอิก  หรือกรดโอเมก้า -6   (น้ำมันถั่วเหลือง  น้ำมันเมล็ดทานตะวัน  น้ำมันข้าวโพด)  กรดไขมันเหล่านี้แม้จะดีในแง่ช่วยลดคอเลสเตอรอล  แต่ถ้ากินมากเกินไปอาจจะไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งได้

 

ทางตรงกันข้าม กรดไขมันโอเมก้า  3  แม้จะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งแต่กรดไขมันก็จำเป็นที่จะให้ในการป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้  ส่วน ปลาน้ำจืดบางชนิดก็มีกรดโอเมก้า 3 มาก  เช่น  ปลาช่อน  ปลาดุกด้านปลาเนื้ออ่อน  ปลาสลิด  ปลาหมอไทย  ปลานิลปลาโอ  และปลากราย

ส่วนไขมันที่นิยมบริโภค  ก็คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว ได้แก่  น้ำมันมะกอกน้ำมันเมล็ดชา  น้ำมันรำข้าว  น้ำมันถั่วลิสง  เป็นต้น   ซึ่งนอกจากจะช่วยลดไขมันและยังมีผลในการป้องกันมะเร็งด้วย

 

3.กำจัดอาหารประเภทเนื้อแดง (เนื้อสัตว์ใหญ่)ในเนื้อแดงจะมีไขมันแทรกอยู่มาก    ดังนั้นการกินเนื้อแดงมาก  แม้จะเป็นเนื้อไม่ติดมันก็ทำให้ได้รับไขมันเพิ่มขึ้นด้วย  มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศสหรัฐอเมริกา  ว่าชายที่กินไขมันเฉลี่ยวันละ 30.5 กรัม จากแดงจะมีโอกาสตายจากมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าชายที่กินไขมันจากเนื้อแดงวันละ 3.2 กรัม  ฉะนั้นถ้าผู้ชายกินเนื้อให้น้อยลงก็สามารถจะลดอาการเกิดมะเร็งและลดไขมันในเลือด ได้

 

  1. กินถั่วเหลืองแทนโปรตีนจากเนื้อแดงบ้าง งานวิจัยเบื้องต้นพบว่าโปรตีนถั่วเหลือง(เต้าหู้) แป้งถั่วเหลือง  และนมถั่วเหลือง  สามารถชะลอความรุนแรงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้  เพราะถั่วเหลืองจะมีฮอร์โมนพืชที่เรียกว่า”ไฟโตเอสโทรเจน”  จะช่วยเพิ่มปริมาณ เอสโทรเจนในผู้ชายทำให้เกิดสมดุลในฮอร์โมนเพศชาย

 

  1. เน้นผัก ผลไม้ และเมล็ดธัญพืชต่างๆ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ (หมายถึงผักและผลไม้  ที่มีสีเขียวจัด สีแดง สีเหลือง  และสีส้ม)  ควรกินผักให้ได้วันละ 2 ถ้วยครึ่ง  และผลไม้ 2 ถ้วยโดยเลือกชนิดสีเข้มๆและจัดให้บ่อยขึ้น
  2. กินมะเขือเทศให้มากขึ้น เพราะในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารในตระกูลแคโรทีนอยด์ มีฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาอนุมูลอิสระมาก เป็น สองเท่าของสารเบต้าแคโรทีน  และมีผลในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก  นักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประเทศสหรัฐอเมริกา  ได้ทำการวิจัยและพบผลเช่นนี้จริง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะเขือเทศก็ให้ผลเช่นเดียวกัน

มะเขือเทศที่ ผ่านความร้อน จะพบว่า  ในการปรุงอาหารการปลดปล่อยสารไลโคปีนจะออกมาจากผนังเซลล์ได้ดีกว่ามะเขือเทศสดทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า เพิ่มฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็ง แต่มะเขือเทศดิบจะให้วิตามินซีมากกว่า เพราะวิตามินซีจะถูกความร้อนทำลายได้ง่าย

 

  1. กินอาหารที่มีวิตามินดีสูง เชน นม แต่แนะนำให้เลือกนมพร่องมันเนยไข่แดงปลาทะเลเห็ดหอมหรือเสริมวิตามินดี เพิ่มด้วยแสงแดด

 

ความเสี่ยงของโรคนี้จะเกิดกับผู้ชายจะมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก   จากงานวิจัยพบว่าสาเหตุมะเร็งต่อมลูกหมากเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ดีจึงเป็นสาเหตุต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้  ถึงแม้ว่าผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากก็สามารถที่จะลดเสี่ยงการตายจากโรคนี้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค  ดังนั้น  SN  Food  อาหารเพื่อสุขภาพขอเป็นกำลังใจช่วยผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากโดยหันมาดูแลสุขภาพด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อจะได้มีอายุยืนยาวต่อไป

อาหารสายยาง, อาหารสุขภาพ, อาหารผู้ป่วย, อาหารเหลว