สารอาหารสำคัญ ของมะเขือเทศ

มะเขือเทศถูกค้นพบครั้งแรกในแถบตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้รวมไปจนถึงหมู่เกาะกาลาปากอส โดยมะเขือเทศพันธุ์แรก ที่นำมาปลูกคาดว่ามีลักษณะคล้ายมะเขือเทศเชอร์รี ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามะเขือเทศที่วางขายในปัจจุบัน มีการนำมะเขือเทศมาปลูกในประเทศเม็กซิโกก่อนที่จะแพร่หลายไปในประเทศต่าง ๆ

 

คุณประโยชน์ของสารอาหารที่อยู่ในมะเขือเทศมีมากมายดังต่อไปนี้

  1. วิตามินซี

มีอยู่มากในมะเขือเทศและทำหน้าที่หลัก ๆ คือ ช่วยซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอของร่างกาย สมานผิว ป้องกันการเสื่อมของผิวหนัง เสริมความแข็งแรงให้เหงือก บำรุงเหงือก ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน

วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์สารคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง กระดูก และข้อต่างๆ เนื่องจากวิตามินซีเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและกรดโฟลิกได้ดี ซึ่งมีผลให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ป้องกันเลือดออกง่าย ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงกระตุ้นภูมิคุ้มกันในเซลล์เม็ดเลือดขาว ป้องกันและรักษาโรคหวัด และช่วยลดอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคภูมิแพ้

 

  1. วิตามินเอ

ในมะเขือเทศมีวิตามินเอทั้ง 2 รูปแบบ คือ เรตินอยด์ (Retinoids) และแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง ช่วยป้องกันการเสื่อมของผิวหนัง ลดการอักเสบของสิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ  และริ้วรอยบนผิวหนัง ซ่อมแซมผิวที่ชำรุดเสียหายจากแสงแดด ลดการเกิดฝ้าจากแสงแดด ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระดูกและฟัน เสริมสร้างระบบสืบพันธุ์

 

  1. วิตามินบี 1

มีความสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญอาหารให้ได้พลังงาน ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา สร้างความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

 

  1. วิตามินบี 2

ช่วยในการทำงานของกระบวนการเผาผลาญอาหารเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและระบบสืบพันธุ์ จำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์เพื่อการพัฒนาของเด็กทารก เป็นส่วนประกอบในการสร้างเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ บำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น ช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย(Antibody) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีในเลือด มีหน้าที่จับสารแปลกปลอมที่บุกรุกเข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อโรคต่าง ๆ แบคทีเรีย ไวรัส เป็นต้น

 

  1. วิตามินบี 3

มีความจำเป็นสำหรับกระบวนการเผาผลาญอาหาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ออกซิเจนภายในเซลล์ มีความสำคัญต่อระบบประสาทและการสร้างฮอร์โมน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลและระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิต กระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต ร่างกายที่สมบูรณ์สามารถสร้างวิตามินบี3 ได้เองอีกด้วย

 

  1. วิตามินบี 5

เป็นตัวช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหาร เพื่อสร้างพลังงานช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด ทำให้ผิวและผมมีสุขภาพดี มีผลต่อเนื่องให้แผลหายเร็ว ช่วยในการย่อยสลายไขมัน

 

  1. วิตามินบี 6

มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับวิตามินบีอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญอาหารเพื่อแปรเป็นพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนเพศ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการอักเสบของผิวหนัง ช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดขาวและสารอื่นๆ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค

 

  1. วิตามินบี 9 หรือ โฟเลต

เป็นวิตามินที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งในการสร้างเซลล์ประสาทและสมอง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เป็นสารที่ร่างกายต้องการในการสร้างเซลล์ใหม่ เช่น เซลล์ตัวอ่อนในครรภ์ เซลล์ผิวหนังที่ชำรุด เป็นต้น  ปกติพบ โฟเลตมากในเนื้อสัตว์ ดังนั้นโฟเลต ในมะเขือเทศจึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่กินมังสวิรัติ หรือขาดการกินเนื้อสัตว์ ซึ่งมักจะป่วยเป็นโรคโลหิตจางหรือโรคทาลัสซีเมีย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะมีอาการโลหิตจาง ร่างกายแคระแกร็น โครงหน้ามักจะแบนหรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมดั้งหัก ขาและแขนสั้น ตับโต พุงโร ท้องป่อง และที่สำคัญคือมีผื่นแดง

 

  1. วิตามินอี

มีประโยชน์ต่อผิวหนัง ลดอาการอักเสบ ซ่อมแซมและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ลดไขมันและป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยสลายลิ่มเลือดไม่ให้เป็นเลือดเกิดการอุดตัน ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ลดอาการร้อนวูบวาบในสตรีวัยหมดประจำเดือน ช่วยให้การทำงานของวิตามินเอสมบูรณ์ขึ้น ป้องกันการเกิดต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของตาเมื่อสูงวัยขึ้น ช่วยเร่งให้แผลหายเร็วขึ้นและป้องกันการเกิดแผลเป็น อีกทั้งยังเป็นวิตามินที่ช่วยเพิ่มตัวอสุจิในเพศชายด้วย

 

  1. เบต้าแคโรทีน อัลฟาแคโรทีน

มีคุณสมบัติช่วยป้องกันสารก่อมะเร็ง ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าสารแอนติออกซิแดนต์  หรือสารต้านอนุมูลอิสระ

 

  1. โพแทสเซียม

เป็นสารที่พบมากในส่วนต่างๆของร่างกาย เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท ช่วยส่งออกซิเจนไปสู่สมองจึงทำให้สมองปลอดโปร่ง และเกี่ยวข้องกับการเต้นของหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดในสมอง   และยังช่วยเสริมสร้างพละกำลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาและลดอาการเหนื่อยล้าจากการเสียเหงื่ออันเนื่องจากการออกกำลังกาย

 

  1. ธาตุเหล็ก

เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ช่วยสร้างสารสีแดงที่ชื่อเฮโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์และคาร์บอนไดออกไซด์ไปกำจัดทิ้ง ป้องกันสภาวะโลหิตจาง ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ช่วยสร้างสมาธิ

 

  1. ฟอสฟอรัส

ร่างกายต้องการฟอสฟอรัสเพราะต้องนำไปผสานกับแคลเซียมเพื่อเป็นสารประกอบแคลเซียมฟอสเฟต ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของกระดูกและฟัน ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูกเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่กระดูก ช่วยให้กระดูกที่แตกหักกลับคืนสู่สภาพปกติได้รวดเร็วขึ้น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของวิตามินบีรวมเสริมสร้างพละกำลังให้นักกีฬา ลดระดับของแคลเซียมในปัสสาวะ ป้องกันการก่อตัวของนิ่วในไต

 

  1. แมกนีเซียม

 

เป็นสารที่จำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญอาหารเพื่อแปรเป็นพลังงานและการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ในการทำงานของระบบประสาทลดความเครียด นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ลดการเกิดโรคหัวใจวายและโรคในเส้นเลือด ควบคุมการทำงานของแคลเซียมที่มีผลต่อกระดูกและฟัน และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดการปวดประจำเดือนในสตรี และยังช่วยลดกรดในกระเพาะอีกด้วย

 

  1. แมงกานีส

มีความจำเป็นในการสร้างกระดูก ลดภาวะกระดูกพรุน ช่วยการทำงานระบบประสาท เช่น ภาวะซึมเศร้า ช่วยให้มีบุตรง่ายขึ้นโดยเฉพาะในสตรีเพศ ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนไธรอยด์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลำเลียงออกซิเจนตลอดจนสารอาหารอื่น ๆ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ อีกด้วย แมงกานีสจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และนุ่มนวล ช่วยรักษาบาดแผลตามผิวหนังให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย

 

  1. กรดอะมิโน

มะเขือเทศมีกรดอะมิโนที่สำคัญคือ กลูตามิก และกรดอื่นๆที่สำคัญเช่น กรดซิตริก ซึ่งทำให้มะเขือเทศมีรสเปรี้ยว ส่วนกรดมาลิกเป็นโปรตีนที่ถูกย่อยจนเล็กที่สุดยังมีเอนไซม์ช่วยย่อย ช่วยสร้างเซลล์มีคลอโรฟิลล์ที่ช่วยสร้างและรักษาเม็ดเลือดแดงอีกด้วย

 

  1. ไลโคปีน

เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ ผิวหนัง ลดผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลต  เช่น ผิวไหม้ เป็นฝ้าหมองคล้ำจากแสงแดด ลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนัง

 

  1. ลูทีน

ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ทั่วร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของจอประสาทตาอีกด้วย จึงมีคุณสมบัติช่วยในการรับภาพของจอประสาทตา

 

  1. ซีแซนธิน

มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับลูทีน คือช่วยชะลอความเสื่อมของผิวหนังและเซลล์อื่น ๆ ของร่างกาย ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น

 

  1. ไฟโตอีน

มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับลูทีน ช่วยป้องกันผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลต

 

การกินอาหารมีความสำคัญมาก ทางSN  อาหารเพื่อสุขภาพ ขอแนะนำว่า หากเราเลือกกินอย่างเหมาะสม ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งยากวิเศษอะไรเลย

อาหารสายยาง, อาหารสุขภาพ, อาหารผู้ป่วย, อาหารเหลว