มันเทศ อันดับ 1 ขจัดสารพิษ

มันเทศมีประโยชน์ต่อร่างกายคือ มิวโคโปรตีนจะรักษาความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดขับคอเลสเตอรอลลดการสะสมของไขมันบริเวณใต้ผิวหนัง บำรุงทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร มีสารที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งช่วยรักษาผิวพรรณ ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็ง เส้นใยอาหารที่อยู่ในมันเทศช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ป้องกันอาการท้องผูก

 

มันเทศเหมาะสำหรับบุคคลใดบ้างที่ดังต่อไปนี้

  1. เหมาะสำหรับผู้ที่มีที่ตับทำงานได้ไม่ดีนัก และผู้ป่วยมะเร็งลำไส้
  2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา ผู้ที่เป็นโรคตาฟางกลางคืน
  3. เหมาะสำหรับผู้มีอาการท้องผูกบ่อยๆ

 

มันเทศไม่เหมาะสำหรับบุคคลต่อไปนี้

  1. ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลหรือกรดในกระเพาะอาหาร
  2. ผู้ที่มีแก๊สในกระเพาะอาหารง่ายควรกินในน้อยๆ

 

อาหารที่กินคู่กับมันเทศได้ และทำให้เกิดประโยชน์ ได้แก่

  1. มันเทศ กินคู่กับไข่ไก่ได้ เพราะจะทำให้ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย

ผลลัพธ์ก็คือ การกินมันเทศที่มีเส้นใยอาหารคู่กับไข่ไก่ที่มีกรดทอรีน จะช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย และช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและตับ

2 มันเทศกินคู่กับงา จะช่วยให้แคโรทีนทำงานได้ดีขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การกินมันเทศที่มีแคโรทีนคู่กับงาที่มีไขมันจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ดีขึ้น

 

อาหารที่ไม่ควรกินคู่กับมันเทศ  ซึ่งจะทำให้เกิดโทษ ได้แก่

1.มันเทศกับกล้วยจะทำให้ ท้องอืดง่าย

ผลลัพธ์ก็คือ มันเทศมีแป้งสูงในขณะที่กล้วยก็มีกรดแทนนิก เมื่อกินอาหารทั้งสองชนิดนี้คู่กันจะทำให้ผู้ที่มีปัญหาอาหารไม่ย่อยเกิดอาการท้องอืดได้ง่าย

2 มันเทศกินคู่กับใบชา จะทำให้เกิดกระเพาะลำไส้ทำงานผิดปกติ

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ  มันเทศมีแป้งสูงเมื่อเข้าสู่ร่างกายกระเพาะจะหลั่งน้ำย่อยออกมาจำนวนมาก เมื่อเจอกับสารแทนนินในใบชาจะตกตะกอนเป็นก้อนที่ละลายยากทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานผิดปกติ

 

 

มันเทศมีสารอาหารที่ช่วยในการขจัดสารพิษให้กับร่างกาย ได้แก่

  1. มีเส้นใยอาหาร ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว ทำให้ถ่ายง่ายลดการสัมผัสระหว่างผนังลำไส้กับพิษที่อยู่ในอุจจาระ ทำให้สารก่อมะเร็งถูกขับออกจากร่างกายเพิ่มแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพแวดล้อมที่ดีลดคอเลสเตอรอล
  2. วิตามินเอ ทำให้ควบคุมไม่ให้สารก่อมะเร็งรวมตัวกับดีเอ็นเอ กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรกตายและควบคุมโรคมะเร็ง

3 บีต้าแคโรทีน สารบีต้าแคโรทีนในมันเทศช่วยกำจัดสารพิษ กำจัดสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ในร่างกายป้องกันโรคมะเร็งได้

4 โพแทสเซียม ช่วยขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย ป้องกันไม่ให้โซเดียมสะสมในร่างกายมากเกินไปจนทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูง รักษาค่าความเป็นกรดและด่างของเลือดและของเหลวในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ

  1. มิวโคโปรตีน ในมันเทศมีมิวโคโปรตีนอยู่120 มิลลิกรัม/100 กรัม ช่วยป้องกันการอักเสบ ขับคอเลสเตอ รอลส่วนเกินช่วยรักษาอวัยวะ ขจัดสารพิษในร่างกาย ช่วยให้ตับและไตแข็งแรง

6 แกงกลิโอไซต์ ในมันเทศมีแกงกลิโอไซต์ 40 มิลลิกรัม/ 100 กรัม จัดเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่อยู่ในมันเทศ มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดและการตายของเซลล์มะเร็ง จึงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคมะเร็ง

 

มันเทศมีสารที่มีประสิทธิภาพในการขจัดสารพิษ

  1. ขจัดสารพิษในลำไส้ อาหารที่ผ่านการขจัดสารพิษจากตับจะถูกส่งมายังลำไส้ มันเทศที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารช่วยขับอุจจาระออกจากร่างกายในเวลาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ผนังลำไส้ดูดซึมสารพิษ

2 ป้องกันโรคมะเร็ง มันเทศที่มีสารอาหารหลายชนิดที่ป้องกันโรคมะเร็งได้ วิตามินเอช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย แกงจิโอไซด์ช่วยควบคุมเซลล์มะเร็ง บีต้าแคโรทีนช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นใยอาหารช่วยขจัดสารพิษที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งออกจากร่างกาย

3 ขจัดพิษในเลือด คอเลสเตอรอลมีความหนาแน่นต่ำนั้นค่อนข้างเหนียว เมื่อถูกส่งจากตับไปยังเซลล์ของอวัยวะส่วนต่างๆ มักเกาะตัวและสะสมตามผนังหลอดเลือด มิวโคโปรตีนและเส้นใยอาหารในมันเทศช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันไม่ให้ไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจ

6 ขจัดสารพิษในไต ไตทำหน้าที่ขับน้ำ เกลือ ของของเสียสะสมในร่างกายเพื่อป้องกันไม่ให้สารพิษเหล่านั้นถูกร่างกายดูดซึมอีกครั้ง โพแทสเซียมในมันเทศกระตุ้นให้โซเดียมส่วนเกินถูกขับออกจากร่างกายพร้อมปัสสาวะและทำงานร่วมกับมิวโคโปรตีน ส่งผลให้ไตมีสุขภาพแข็งแรง

7 ขจัดสารพิษที่มีฤทธิ์เป็นกรด ผู้ที่กินเนื้อสัตว์ปริมาณมาก กินผักและผลไม้น้อย ทำงานหักโหม มักเกิดสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดในร่างกาย ส่งผลให้เลือดมีความเป็นกรดสูงกว่าปกติ โพแทสเซียมในมันเทศจึงเป็นแร่ธาตุที่มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงสลายสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่สะสมในร่างกายมากเกินไปได้

 

มีวิธีการเลือก และการเก็บรักษามาฝาก

(1) การเลือกซื้อ ควรเลือกหัวที่มีสภาพดี สีเปลือกสม่ำเสมอ รอยย่นน้อย ไม่มีจุดดำ ไม่มีรากงอก ไม่มีส่วนเน่าเสียหรือบิดผิดรูป

(2)การล้าง เมื่อจะนำมากินค่อยนำมาล้างปอกเปลือกส่วนที่เว้าไม่เรียบควรล้างให้สะอาดเป็นพิเศษเพื่อชำระดิน หรือยาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่บนเปลือก

(3) การจัดการ มันเทศที่เพิ่งเก็บจากต้นควรปล่อยทิ้งไว้สัก 2-3 วัน เพื่อให้มีกลิ่นหอม มันเทศที่ซื้อแล้วไม่ได้กินทันทีไม่ควรนำมาล้างน้ำ

(4) การเก็บ มันเทศกลัวความเย็น จึงไม่ควรแช่เย็น ควรหากระดาษห่อและวางไว้ในที่ร่มลมโกรก อย่าให้โดนแดด จะเก็บได้นานถึง 4-7 เดือน

(5) วิธีปรุงที่เหมาะสม ควรกินมันเทศที่ต้ม เนื่องจากหากเซลล์ในแป้งของมันเทศดิบไม่ได้ผ่านการย่อยสลายโดยความร้อนสูงร่างกายจะดูดซึมและย่อยได้ยาก หากกินดิบ ๆ จะทำให้เกิดการสะอึก ท้องอืด ท้องเฟ้อ กระเพาะและลำไส้ย่อยได้ยากจึงควรมันเทศที่สุกแล้ว

 

ทาง SN  อาหารเพื่อสุขภาพ  หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์กับทุกท่านเป็นอย่างมาก  เมื่ออ่านแล้วจะได้นำมาปรับใช้ในชีวิตจริง ให้เหมาะสมกับตัวเราและคนในครอบครัวที่เรารักจะได้ห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ

อาหารสายยาง, อาหารสุขภาพ, อาหารผู้ป่วย, อาหารเหลว