ผักสลัด
หลายๆคนคงชอบทานสลัดเป็นอาหารมื้อเช้าหรือเย็น เพื่อควบคุมน้ำหนัก นอกจากสลัดจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้แล้ว ยังมีประโยชน์ทางโภชนาการสูงมากอีกด้วย เพราะ ผักสลัด แต่ละชนิดนั้น ล้วนมีประโยชน์อย่างมากและมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1.ผัดสลัด หรือผักกาดหอม
มีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วยวิตามินบี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และลูเทียน (lutein) มียาง (latex) ชื่อ แลคทูคาเรียม (lactucarium) ซึ่งมีระดับสูงมากขณะออกดอก นอกจากนั้นยังมีวิตามินบีสูงด้วย
สรรพคุณของผักกาดหอมและวิธีใช้ผักกาดหอม นั้นมักใช้เป็น ผักสลัด มีสารต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับผักสลัดที่มีสีเขียวอื่น ๆ ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของผักกาดหอมคือ ใบ เมล็ด และต้น ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้
-ต้นผักกาดหอมทั้งต้นคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาทาฝีมะม่วง (รีดเอาหนองออกก่อน) ใช้ขับพยาธิ แก้พิษ ขับลม เป็นยาระบาย
-ใบผักกาดหอม น้ำคั้นจากใบ ใช้แก้ไอ ทำให้หลับง่าย แก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ
-เมล็ดผักกาดหอม ใช้รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม ระงับปวด แก้ปวดเอว และรักษาโรคริดสีดวงทวาร
2.กรีน โอ๊ค
เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ตามร้านอาหารหรือในเมนูสลัดทั้งหลายค่ะ ซึ่งกรีน โอ๊ค นั้นเป็นผักที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยย่อยอาหารได้ดี ทั้งยังมีวิตามินสูง ช่วยบำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท และกล้ามเนื้อ โดยใบของกรีนโอ๊คจะค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็ง จึงกินง่าย เหมาะสำหรับคนที่เพิ่มเริ่มกินผัก
3.เรด โอ๊ค
จะเป็นผักที่มีรูปทรงคล้ายกับกรีน โอ๊คเลยค่ะ เพียงแต่ต่างกันที่สี โดยเรด โอ๊ค จะมีสีแดงเข้มบริเวณขอบใบ และกลางใบจะมีสีเขียว กินง่ายเช่นเดียวกับกรีน โอ๊คค่ะ ในเมนูสลัดทั้งหลายเราจึงมักเห็นเรด โอ๊ค และกรีน โอ๊ค มาคู่กันเสมอ ซึ่งประโยชน์ของเรด โอ๊ค ก็มีไม่น้อยเช่นกันค่ะ เป็นผักที่มีกากใยสูง จึงช่วยล้างผนังลำไส้ให้สะอาด ช่วยกำจัดไขมัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้
4.เรด คอรัล
มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดีค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดไขมัน ช่วยต้านอนุมูลิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ได้เช่นกัน ทั้งยังให้วิตามินซีสูง ช่วยป้องกันอาหารหวัดได้
5.ผักร็อกเก็ต
เป็นผักสลัดอีกหนึ่งชนิดค่ะ ที่มีวิตามินเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินบีอีกหลากหลายชนิด ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางแล้ว ยังดีต่อระบบขับถ่ายมากๆ อีกด้วยล่ะค่า เพราะช่วยแก้ท้องผูก แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี แถมผักนี้ยังดีต่อคุณแม่ที่ต้องให้นมลูกอีกด้วยนะคะ เพราะช่วยขับน้ำนมได้ดี
6.ร็อกเก็ต เป็นอีกพันธุ์ของร็อกเก็ตนั่นเองค่ะ แต่ลักษณะของใบจะแตกต่างกันแบบสุดๆ ค่ะ เพราะใบของไวลด์ ร็อกเก็ต จะมีลักษณะเป็นทรงรีๆ ยาวๆ ใบจะเป็นขอบหยักลึก ไม่เรียวมนเหมือนร็อกเก็ตธรรมดา ที่สำคัญไวลด์ ร็อกเก็ต จะมีจุดเด่นตรงที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย หากนำไปปรุงหรือถูกความร้อน รสเผ็ดจะหายไป ดังนั้นหากอยากได้ประโยชน์มากที่สุด ควรกินแบบสดมากกว่านำไปผ่านความร้อนนะคะ นอกจากนี้ไวลด์ ร็อกเก็ต ยังมีวิตามินซีและโพแทสเซียมสูง ช่วยป้องกันไข้หวัดได้
7.ผักคอส
ผักชนิดนี้จุดเด่นอยู่ที่ความกรอบ ใครได้กินก็ต้องติดใจ โดยผักคอสจะมีลักษณะใบที่เรียวยาว เป็นทรงสูง รสชาติออกหวานหน่อยๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวกวนใจ และประโยชน์ของผักคอสก็มีไม่น้อยหน้าผักอื่นเลยค่ะ มีทั้งวิตามิน และธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยเพิ่มประมาณเม็ดเลือดแดงในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ยังมีกากใยสูงช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และช่วยขับของเสียออกจากลำไส้
8.ฟิลเล่ ไอซ์เบิร์ก
จะคล้ายๆ กับผักกาดหอม ตรงที่มีใบค่อนข้างหยิก แต่ฟิลเล่ ไอซ์เบิร์กจะหยิกเป็นฝอยกว่า และที่สำคัญ ไม่มีรสขมแบบผักกาดหอมเลยค่ะ รสชาติจะหวานฉ่ำ และกรอบกว่า สามารถใช้ทานเป็นเครื่องเคียงได้เหมือนผักกาดหอม หรือจำมาทำสลัดคู่กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน โดยประโยชน์ของฟิลเล่ ไอซ์เบิร์กนั้นจะช่วยในการสร้างเม็ดเลือด และมีวิตามินซีสูงมาก จึงช่วยป้องกันโรคหวัดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้
9.บัตเตอร์เฮด
เป็นดอกกุหลาบดอกโตๆ ดอกนึงเลย เพราะเป็นผักที่มีใบซ้อนกันหนาเหมือนกลีบดอกไม้ แถมสีก็ยังมีสีเขียวเข้มสวย แต่เห็นสีเข้มๆ แบบนี้ใบกลับนุ่ม กรอบ ไม่แข็งอย่างที่คิดค่ะ ส่วนตรงกลางจะเป็นใบอัดแน่นคล้ายกะหล่ำหรือผักกาด ซึ่งประโยชน์ก็มีทั้งช่วยบำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงระบบประสาท บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงผิว แถมยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้