อาหารทางการแพทย์ สามารถเตรียมเองได้หรือไม่
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารทางการแพทย์นั้น มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหารซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่รับประทานอาหารเองได้ แต่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและครบถ้วน โดยอาหารทางการแพทย์ เป็นอาหารที่ใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมกับโรค ซึ่งอาหารทางการแพทย์นั้น สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆคือ อาหารทางการแพทย์สูตรทั่วไปและอาหารทางการแพทย์สูตรเฉพาะโรค โดยอาหารทางการแพทย์สูตรเฉพาะโรคนั้น จะต้องใช้กับผู้ป่วยที่มีความเจ็บป่วยเฉพาะที่ เพราะร่างกายของผู้ป่วยในแต่ละโรคมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน อาหารทางการแพทย์สามารถช่วยผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ อาการเบาหวานและผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อาหารทางการแพทย์นั้นต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มีจุดประสงค์ในการรักษาโรคโดยตรง เป็นเพียงการช่วยป้องกันการเกิดปัญหาที่เกิดจากโรคเท่านั้น อาหารทางการแพทย์ หากรับประทานแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ แต่ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้ และในปัจจุบันนี้การใช้อาหารทางการแพทย์ก็สามารถใช้ได้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว เพียงแต่ต้องรับประทานให้ถูกกับโรคและความต้องการของร่างกาย
สำหรับวันนี้อาหารปั่นผสม SNFood เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเตรียมอาหารทางการแพทย์ว่ามีวิธีการอย่างไรและสามารถเตรียมเองได้หรือไม่
สำหรับอาหารทางการแพทย์ จะต้องมีการเตรียมและวิธีการช่วงที่ถูกต้องโดยญาติหรือผู้ดูแลสามารถเตรียมอาหารให้เหมาะสมกับผู้ป่วยได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของนักโภชนาการหรือแพทย์เท่านั้น เนื่องจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถกำหนดได้ว่า ผู้ป่วยควรได้รับพลังงานและสารอาหารในปริมาณเท่าใดและในอาหารธรรมชาตินั้นจะมีสารอาหารอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง ทำให้เมื่อคำนวณแล้วจะได้เมนูอาหารที่ทำให้อาหารที่เตรียมนั้นมีสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายผู้ป่วย และที่สำคัญการจัดเตรียมอาหารจากธรรมชาติตามสูตรที่ได้รับนั้น ญาติหรือผู้ดูแลจะต้องคำนึงถึงสุขลักษณะในทุกขั้นตอน เพราะอาหารที่มีความสะอาดเป็นผลดีต่อร่างกายผู้ป่วย เพราะฉะนั้นตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมอาหาร วิธีการผสมและวิธีทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้ก่อนการใช้อาหารทางการแพทย์ นอกจากนี้หลังจากชงอาหารเสร็จแล้ว วิธีการเก็บรักษาอาหารทางการแพทย์เพื่อให้อาหารมีคุณภาพก็ควรที่จะเก็บรักษาอย่างถูกวิธีด้วย และที่สำคัญการเตรียมอาหารสำหรับผู้ป่วย โดยใช้อาหารปกติจากธรรมชาตินั้นอาจจะมีข้อยุ่งยากบางประการในการเตรียมในการให้อาหารทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยหรือผู้พักฟื้น เนื่องจากอาหารที่ได้จะมีความหนืด ความข้น ทำให้การให้กับผู้ป่วยเป็นไปได้ยากมากขึ้น นอกจากนี้ญาติหรือผู้ดูแลควรปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับส่วนประกอบหรือส่วนผสมที่จะนำมาใช้ในการผสมอาหารแก่ผู้ป่วย เพราะในปัจจุบันมีการพัฒนาหาจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแป้ง เนื้อสัตว์ ให้เป็นส่วนประกอบที่สามารถใช้ได้ง่ายขึ้นทำให้ลดปัญหาความหนืด ความข้นของอาหารที่เตรียมไว้และสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย
สำหรับอาหารทางการแพทย์มีประโยชน์แก่ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากอาหารทางการแพทย์นั้นสามารถใช้เป็นอาหารหลักแทนอาหารในแต่ละมื้อได้ สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารไม่ได้เช่น ผู้ป่วยที่ร่างกายที่ไม่สามารถย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้ ทั้งนี้อาหารทางการแพทย์ยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อเพิ่มพลังงานและสารอาหารให้กับผู้ที่รับประทานอาหารได้แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเช่น ผู้สูงอายุ ที่มีภาวะเบื่ออาหาร เนื่องจากร่างกายมีความเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้ป่วยอาจรับประทานอาหารได้น้อย รวมไปถึงปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันอาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับ การบดเคี้ยวอาหารทำให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้รวมไปถึงผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งอาจทำให้มีผลข้างเคียงทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม สารอาหารส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในอาหารทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะถูกดัดแปลงให้ย่อยง่ายเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่หากเรามีสุขภาพที่แข็งแรงและสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติการใช้อาหารทางการแพทย์จึงไม่มีความจำเป็นมากนัก เพราะอาหารทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีใยอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งร่างกายของแต่ละคนก็มีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน อาหารทางการแพทย์แต่ละชนิดก็จะมีสรรพคุณที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหากต้องการใช้อาหารทางการแพทย์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อน ทั้งนี้ อาหารปั่นผสม SN เราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ โดยอาจจะเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่เป็นประจำและต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ทำให้เราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่